- การติดเชื้อไวรัส: ไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของตับอักเสบ
- แอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปทำให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อตับ
- ยาบางชนิดและสารเคมี: การใช้ยาในระยะยาว หรือการสัมผัสสารเคมีบางชนิดอาจทำให้เกิดการอักเสบของตับ
- โรคเรื้อรัง: เช่น โรคไขมันพอกตับที่ไม่เกิดจากแอลกอฮอล์ หรือการสะสมของเหล็กในร่างกาย
อาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยตับอักเสบ ได้แก่
- เหนื่อยล้าอย่างรุนแรง
- ปวดท้องบริเวณด้านขวา
- มีไข้
- เบื่ออาหารและคลื่นไส้
- ผิวหนังและตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง (ดีซ่าน)
การรักษาตับอักเสบ
การรักษาตับอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค:
- ตับอักเสบจากไวรัส: ไวรัสตับอักเสบเอส่วนใหญ่หายได้เองโดยไม่ต้องการการรักษาพิเศษ ส่วนไวรัสตับอักเสบบีและซี อาจต้องได้รับยาต้านไวรัสและการรักษาอื่นๆ เพื่อป้องกันการลุกลามของโรค
- ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์: การหยุดดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งสำคัญ หากอาการรุนแรงแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาเพื่อลดการอักเสบ
- ตับอักเสบจากยา: ควรหยุดใช้ยาหรือสารเคมีที่เป็นสาเหตุของการอักเสบตามคำแนะนำของแพทย์
- การรักษาโรคเรื้อรัง: อาจรวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกาย และการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
การป้องกันตับอักเสบ
- รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบี
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- ใช้ยาอย่างระมัดระวังตามคำแนะนำของแพทย์
- ควบคุมน้ำหนักและเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
สรุป ตับอักเสบสามารถรักษาได้หากได้รับการวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การป้องกันและการรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตับเรื้อรัง