ไขมันพอกตับเพราะกินเหล้าหนัก อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

ไขมันพอกตับ (Alcoholic Fatty Liver Disease – AFLD) เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมไขมันในเซลล์ตับ สาเหตุหลักมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะตับอักเสบหรือลุกลามไปเป็นโรคตับแข็งได้

หลายคนอาจไม่รู้ว่า แม้จะไม่ได้ดื่มจนเมาทุกวัน แต่การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็สามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะไขมันพอกตับได้โดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่าสาเหตุเกิดจากอะไร อาการเป็นอย่างไร และจะป้องกันได้อย่างไร

ทำไมการดื่มเหล้าหนักทำให้ไขมันพอกตับ?

1. แอลกอฮอล์ทำให้ตับเผาผลาญไขมันผิดปกติ

ปกติแล้วตับทำหน้าที่เผาผลาญไขมัน แต่เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ตับจะต้องใช้พลังงานไปกำจัดแอลกอฮอล์ก่อน ทำให้ไขมันที่ควรถูกเผาผลาญถูกสะสมในเซลล์ตับแทน

2. แอลกอฮอล์กระตุ้นการสะสมไขมันในตับ

การดื่มแอลกอฮอล์กระตุ้นให้ร่างกาย ผลิตไขมันมากขึ้นและลดการขจัดไขมันออกจากตับ ส่งผลให้ไขมันสะสมมากขึ้น

3. ทำให้ตับอักเสบและเซลล์ตับเสียหาย

เมื่อไขมันสะสมในตับมากเกินไป จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ และอาจพัฒนาไปเป็น ภาวะตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ (Alcoholic Hepatitis)

4. เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะตับแข็ง

หากดื่มแอลกอฮอล์หนักเป็นเวลานาน ไขมันที่สะสมอาจกระตุ้นให้เกิดพังผืดในตับ และนำไปสู่ โรคตับแข็ง (Cirrhosis) ซึ่งเป็นภาวะที่ตับถูกทำลายอย่างถาวร

อาการของไขมันพอกตับจากการดื่มเหล้า

🔴 ระยะแรก (มักไม่มีอาการชัดเจน)

  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • ท้องอืด แน่นท้อง
  • ปวดตึงบริเวณด้านขวาบนของช่องท้อง

🟠 ระยะที่ไขมันสะสมมากขึ้น (ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์)

  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน)
  • มีอาการบวมที่ขาและท้อง

🟢 ระยะรุนแรง (ภาวะตับแข็ง)

  • ท้องมาน (มีน้ำสะสมในช่องท้อง)
  • อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือดจากเส้นเลือดขอดในหลอดอาหาร
  • สมองสับสน หรือหมดสติเนื่องจากตับไม่สามารถขจัดสารพิษได้

ดื่มเหล้ามากแค่ไหนถึงเสี่ยงไขมันพอกตับ?

📌 หากดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าปริมาณที่ตับสามารถเผาผลาญได้ ตับจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น

💥 ปริมาณที่เสี่ยงทำให้เกิดไขมันพอกตับ:

  • ผู้ชาย: ดื่มมากกว่า 2 แก้วมาตรฐานต่อวัน
  • ผู้หญิง: ดื่มมากกว่า 1 แก้วมาตรฐานต่อวัน
  • ดื่มหนักต่อเนื่องหลายปี มีโอกาสเกิดไขมันพอกตับสูง

📌 1 แก้วมาตรฐาน (Standard Drink) เทียบเท่ากับ:

  • เบียร์ 330 มล. (1 กระป๋อง)
  • ไวน์ 150 มล.
  • วิสกี้ หรือเหล้า 45 มล.

วิธีป้องกันและฟื้นฟูตับจากภาวะไขมันพอกตับ

1. หยุดหรือลดการดื่มแอลกอฮอล์

  • หากพบว่ามีไขมันพอกตับ ควรงดเหล้าทันที เพื่อให้ตับมีโอกาสฟื้นฟู
  • ลดปริมาณการดื่มให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย

2. ปรับพฤติกรรมการกิน

  • ลดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารแปรรูป
  • กินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยขจัดสารพิษออกจากตับ

3. ออกกำลังกายเป็นประจำ

  • การออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน ช่วยเผาผลาญไขมันสะสมในตับ
  • การฝึกเวทเทรนนิ่งช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และช่วยให้ร่างกายจัดการกับน้ำตาลและไขมันได้ดีขึ้น

4. เสริมสร้างสุขภาพตับด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์

  • ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คูมินช่วยลดการอักเสบของตับ
  • ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับ
  • วิตามินอี ลดภาวะตับอักเสบและช่วยให้ตับทำงานดีขึ้น

5. ตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ

  • ตรวจค่าเอนไซม์ตับ (AST, ALT) เพื่อติดตามสุขภาพของตับ
  • ทำอัลตราซาวด์ตับ หากมีภาวะไขมันพอกตับควรเฝ้าระวังไม่ให้พัฒนาไปเป็นตับอักเสบ

การดื่มแอลกอฮอล์หนักและต่อเนื่องเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิด ไขมันพอกตับ ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นตับอักเสบหรือตับแข็งหากไม่ได้รับการดูแล การลดหรืองดการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพตับ ควบคู่กับการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

หากคุณดื่มเหล้าเป็นประจำ และเริ่มมีอาการผิดปกติ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตับเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะตับแข็งที่รักษายาก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า